น่าสนใจอย่างมากสำหรับหูฟัง Whizzer A15 เมื่อได้ทดลองฟังที่ร้าน Jaben Thailand ฟอร์จูนทาวน์ เพราะด้วยราคาเพียง 2,990 บาท ที่สามารถอัพเกรดสายหูฟังได้ มาพร้อมกับ EarTip หลายขนาด และใช้บอดี้ที่เป็น Alloy Stainless Steel คุ้มค่าขนาดนี้ อดใจไม่ไหวที่จะต้องซื้อกลับบ้านทันทีเมื่อได้ทดลองฟัง
หูฟัง In-Ear แบรนด์ Whizzer รุ่น A15 เริ่มเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มนักฟังเพลงและแวดวงหูฟัง ชื่อแบรนด์อาจจะยังไม่คุ้นนัก แต่หากได้ทดลองฟัง ได้สัมผัส ก็จะรู้ว่าเป็นหูฟังที่คุ้มค่าอย่างมาก ไม่อยากเชื่อว่าราคาไม่เกิน 3 พันบาท แต่ Whizzer กล้าจัดเต็มให้สิ่งที่ลูกค้ารู้สึกว่าดีและเกินคุ้ม
ดูจากดีไซน์ของหูฟังแบบนี้ ก็ทำให้นึกถึงหูฟัง In-Ear Monitor 2-3 แบรนด์ดังที่เคยเห็นศิลปินชื่อดังหลายคนนิยมใส่ขึ้นเวทีในขณะร้องเพลง ซึ่งรุ่นยอดนิยมเหล่านั้น มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4-5 พันบาทไปจนหลักหมื่นบาท แต่เมื่อรู้ว่าหูฟัง Whizzer A15 มีจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ด้วยราคาเพียง 2,990 บาท บอกเลยว่า “ต้องลอง” อย่าเพิ่งประเมินคุณภาพเสียงจากราคา
Whizzer A15 ใช้ไดรเวอร์แบบไดนามิกขนาด 10mm. บอดี้เป็นโลหะสแตนเลสน้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทานต่อรอยขีดข่วน ดูแลรักษาง่าย สามารถเปลี่ยน Damper ได้เมื่อรู้สึกสกปรกหรือมีฝุ่นสะสมมากเกินไป สายคล้องหลังใบหูหุ้มด้วยสปริงที่สามารถดัดให้โค้งกระชับกับหูได้ เพิ่มความแข็งแรงและไม่หลุดเมื่อมีการเคลื่อนไหวแรง ๆ รวมทั้งสามารถเปลี่ยนหรืออัพเกรดสายได้ ใช้ขั้วต่อแบบ MMCX RF เป็นสายมาตรฐานที่เลือกหาซื้อกันได้ง่ายดายหลายแบบหลายราคาตามแต่ความต้องการ ทั้งหมดนี้คือจุดเด่นที่น่าสนใจที่ระบุไว้บนกล่องของหูฟังรุ่นนี้
ความอลังการที่เกินราคา ประทับใจตั้งแต่เปิดกล่อง
หรูหราด้วยโลหะ แตกต่างจากหูฟัง IEM ทั่วไปที่ใช้บอดี้เป็นพลาสติกสีดำหรือสีใส
จัดเต็มด้วย Eartip ทั้งแบบโฟมและจุกซิลิโคน มีครบทุกขนาด
Anti-Dust Damper สำรองพร้อมที่คีบ สำหรับเปลี่ยนได้เอง
มาพร้อมกระเป๋าใส่หูฟัง ป้องกันความเสียหายจากการถูกกดทับ
สายหูฟังในส่วนที่สวมเข้ากับหลังใบหู หุ้มด้วยสปริง
แผ่นพับแนะนำการใช้งาน การสวมใส่ และการเปลี่ยน Damper
แกนของจุกซิลิโคน มีให้มาสองแบบที่แกนกลางสีเหลืองมีความหนาแตกต่างกัน ก็แตกต่างกันทั้งเรื่องความสบายในการสวมใส่และก็มีผลต่อลักษณะเสียงด้วยเล็กน้อย แต่สุดท้ายในการทดสอบใช้งานช่วงเดือนแรก ก็เลือกใช้จุกโฟมเพราะถูกใจที่สุด
ทดสอบคุณภาพเสียง
โดยส่วนตัวแล้ว จะใช้หูฟังแบบ Over-Ear บ่อยกว่า In-Ear เพราะลองใช้หูฟัง In-Ear ที่มีอยู่เกือบ 20 รุ่นแล้วรู้สึกว่าใส่ฟังได้ไม่นานก็ต้องหยุกพัก ก็จะเริ่มรู้สึกคันและไม่ค่อยสบายหูเท่าไรนัก แต่สำหรับ Whizzer A15 นี้ สวมใส่ค่อนข้างยากในระยะแรกที่ยังไม่ชิน ใส่ทีละข้าง ดัดสปริงให้กระชับหลังใบหู ใช้เวลาเกินครึ่งนาทีกว่าจะได้ฟังเพลง แต่น่าแปลกว่าเมื่อทดลองพกพาไปใช้งานทั้ง Indoor และ Outdoor กลับใส่ฟังเพลงได้นาน ไม่รู้สึกรำคาญ มีความสบายหูมากกว่า ไม่หลุดง่ายทั้งที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลาในขณะเดินทางไปทำงานด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
ในการทดสอบคุณภาพเสียง มีการใช้ฟังผ่านสมาร์ทโฟนหลายรุ่นด้วยแอปพลิเคชั่น Spotify และฟังผ่านคอมพิวเตอร์ MacBook ที่เปิดเล่นไฟล์เพลง Lossless / Hi-Res Audio โดยทั้งหมดนี้ จะไม่ใช้ External DAC หรือ Headphone Amplifier
เมื่อแกะกล่องฟังครั้งแรก ยังไม่ได้มีการเบิร์นมาก่อน บอกเลยว่าผิดหวังกับคุณภาพเสียง หูฟังราคา 2,990 บาท แต่เสียงดีกว่าหูฟังราคา 299 บาทไม่มากนัก เสียงเบสดูทึบ ขนาดมิติ เสียงแหลมจัดจ้าน ไม่มีความใส เสียงร้องที่ผิดเพี้ยนอย่างรู้สึกได้ ซึ่งก็ทราบมาก่อนแล้วว่าหูฟังรุ่นนี้ จำเป็นต้องเบิร์นให้เสียงเข้าที่เข้าทางก่อน
หลังจากผ่านการเบิร์นมาแล้ว 7-8 ชั่วโมงเต็ม แล้วใช้งานต่อเนื่องไปอีกสักระยะ ยอมรับว่าเสียงดีขึ้นอย่างมาก ดีเกินราคาหูฟัง 2,990 บาทไปพอสมควร (เมื่อเทียบกับหูฟังอื่นในระดับราคาเดียวกัน) ถ้าถูกปิดตา แล้วทดสอบฟังเสียง ทายราคาโดยไม่ได้เห็นก่อนว่าเป็นหูฟังรุ่นใด ก็คงคิดว่าน่าจะเป็นหูฟังราคา 4-6 พันบาท แต่ก็เดายากว่าเป็นหูฟังรุ่นใด เพราะสไตล์เสียง ก็ไม่ใช่แบบหูฟังมอนิเตอร์ทั่วไป เสียงที่ได้ มี Color นิด ๆ ไม่ถึงกับถ่ายทอดออกมาบริสุทธิ์เป๊ะตามเสียงต้นฉบับ เสมือนก๋วยเตี๋ยวต้มยำชามใหญ่ที่แม่ครัวปรุงมาให้แล้วเล็กน้อย อร่อยกลมกล่มพร้อมทานได้เลยโดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวน้ำใสรสชาติ Original ที่ต้องปรุงเพิ่ม ปรุงไปชมไป จนได้รสชาติที่ถูกปาก
Whizzer A15 เป็นหูฟังที่ขับง่าย ฟังได้กับทุก Device แม้กระทั่งฟังผ่านสมาร์ทโฟน Sony Xperia ที่ให้กำลังขับต่ำมาก ก็ยังขับไหวสบาย ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วเมื่อฟังผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ ปรับ Volume ประมาณ 45-65% ก็ดังเพียงพอแล้ว
Whizzer A15 เป็นหูฟังที่โดดเด่นในย่านเสียงแหลมที่ไปได้ไกล มีความใสเป็นประกายพอตัว Soundstage กว้างปานกลาง ต่างจากก่อนเบิร์นที่มิติเสียงแคบอับทึบ ในย่านเสียงเบส ให้เบสที่ลึกในปริมาณกลาง ๆ Impact พอดี ๆ เบสได้รูปสวยกำลังดี ไม่บวม ฉับไวกว่าที่คิด ถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงกลองชุดได้ดี ชัดทุกตัวโน้ต รู้สึกได้ถึงการสั่นของเครื่องดนตรีชนิดสายและไม้กลองกระทบกลอง ในขณะที่เสียงร้องยังหลบไปข้างหลังพอสมควร ไม่ได้พุ่งโดดเด่นออกมาข้างหน้าเกินไป แต่ก็ถ่ายทอดเสียงร้องที่อิ่ม มีมวล มีความไพเราะใช้ได้ น่าจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับผู้ฟังเพลงสมัยใหม่ เป็นหูฟังที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีครบทุกย่านเสียง แต่เน้นรายละเอียดเสียงย่านปลายแหลมได้ดีมากกับ Deep Bass ที่เป็นเบสมีคุณภาพ โดยที่ระดับเสียงของเสียงร้องไม่โดดเด่นจัดจ้านหรือเน้นความสำคัญมากเกินไปจนกลบเสียงเครื่องดนตรีย่านอื่นให้ดู Drop ลง โดยรวมถือว่าน่าพอใจในคุณภาพเมื่อเทียบกับราคา 2,990 บาท
ข้อสังเกต เนื่องจากหูฟังรุ่นนี้ใช้บอดี้ที่เป็นโลหะ จึงต้องระวังเรื่องไฟรั่วมายังหูในขณะฟังเพลง หากต่อหูฟังเข้ากับอุปกรณ์ที่เสียบปลั๊กไฟแต่ไม่ได้เชื่อมต่อสายดินไว้ จะเป็นอันตรายต่อผู้ฟังได้
สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ http://www.jaben.co.th/shopping/Whizzer-A15.html บริการจัดส่งฟรีด้วย EMS และ Kerry ทั่วไทย แต่อยากให้มาทดลองฟังด้วยตัวเองก่อนที่ร้าน Jaben Thailand (Fortune Town, ชั้น 3, ห้อง 3P82) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Inbox : http://m.me/JabenThailand หรือ LINE : @JabenThailand https://goo.gl/BZVo0e